เปลี่ยน ตึก-เมือง ให้สมาร์ท DTX แก้ปัญหาด้วย Digital Twin

การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของอุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ การประมวลผลด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ผลักดัน “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น”

ในทุกอุตสาหกรรม แม้แต่สิ่งที่เคลื่อนที่ไม่ได้อย่าง อาคาร บ้าน และสาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็ไม่เว้นและเป็นโจทย์สำคัญของเจ้าของหรือผู้ที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการ ซึ่งจะยิ่งยากขึ้นไปอีก ถ้าเป็น “เมือง” ที่มีความซับซ้อนของทั้งผู้คน และสิ่งปลูกสร้าง

“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสพูดคุยกับ “ผศ.ดร.พร วิรุฬรักษ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี ที เอ็กซ์ จำกัด (DTX) บริษัทร่วมทุนระหว่างทีมกรุ๊ป (TEAMG) และ DITTO เพื่อให้บริการระบบบริหารจัดการอาคาร และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ รวมถึง “เมือง” ด้วยเทคโนโลยี digital twin

เทคโนโลยี

“ดร.พร” อธิบายว่า digital twin เป็นแบบจำลองที่สะท้อนสถานะความเป็นจริงของวัตถุทางกายภาพ ณ เวลานั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (digital) เสมือนคู่แฝด ที่คนหนึ่งอยู่ในโลกกายภาพ อีกคนอยู่ในโลกคอมพิวเตอร์ที่สามารถแสดงรายละเอียด และคุณสมบัติต่าง ๆ เทียบเท่าวัตถุจริง ให้ข้อมูล real time นำไปพัฒนา ปรับปรุงระบบการทำงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย และช่วยในการตัดสินใจแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้

“เป็นการนำกายภาพของวัตถุ เช่น ข้อมูลของอาคารสูงขนาดใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม ข้อมูลการก่อสร้าง ระบบน้ำ ระบบไฟ รวมถึงข้อมูลของเมือง ที่ปกติจะบันทึกอยู่ในพิมพ์เขียวมาอยู่ในแพลตฟอร์มที่เป็น digital ดูได้ real time 24 ชั่วโมง ผู้บริหารอาคาร หรือนิคมอุตสาหกรรม

อยากเห็นปริมาณการใช้ไฟฟ้า ปริมาณน้ำท่วมหลังฝนตกลงมา ตรงไหนท่วม ตรงไหนไม่ท่วมได้ทันทีจะได้แจ้งเตือน หรือแม้แต่ผู้ว่าฯ ของเมืองก็ต้องเข้าถึง CCTV ดูความปลอดภัย ดูการจราจร ดูสิ่งแวดล้อม หรืออุปกรณ์ เช่น เครื่องสูบน้ำ ไฟถนน หรือสังเกตการใช้พลังงาน digital twin ส่งสัญญาณมาโดยตรงทำให้ข้อมูลที่ได้รับถูกต้องแม่นยำโปร่งใส”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม คลิ๊กเลย >> PayPal ประกาศปลดพนักงาน 2,000 คน เซ่นพิษเศรษฐกิจ

PayPal ประกาศปลดพนักงาน 2,000 คน เซ่นพิษเศรษฐกิจ

“เพย์พาล” (PayPal) แพลตฟอร์มบริการชำระเงินออนไลน์รายใหญ่ของโลก ประกาศแผนลดจำนวนพนักงานลง 2,000 คน จากภาวะทางเศรษฐกิจ

PayPal

เพย์พาล เผยแผนการปลดพนักงานประมาณ 2,000 ตำแหน่ง หรือคิดเป็น 7% ของพนักงานทั้งหมด ทำให้เพย์พาลเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่รายล่าสุดที่จำเป็นต้องปรับลดค่าใช้จ่ายลง เพย์พาล ระบุว่า บริษัทจำเป็นตัดสินใจดังกล่าว เนื่องจากต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย

การประกาศของเพย์พาลมีขึ้นหลังจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหลายแห่งประกาศปลดพนักงานหลายหมื่นคน เกมสล็อต เฉพาะในเดือนที่แล้วเพียงเดือนเดียว นับตั้งแต่ “อัลฟาเบท” บริษัทแม่ของกูเกิล, แอมะซอน และ ไมโครซอฟท์ ที่ได้ประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ไปก่อนหน้านี้

แดน ชูลแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเพย์พาล กล่าวว่า “เราต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่โลกของเรา ลูกค้า และแนวการแข่งขันของเราเปลี่ยนแปลงไป”

นอกจากนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สแนป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย สแนปแชต ได้เตือนว่า รายได้ในช่วง 3 เดือนจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมอาจลดลงมากถึง 10% หลังจากการประกาศ หุ้นของสแนปลดลงเกือบ 15% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก

เมื่อต้นปีนี้ แอมะซอน ประกาศว่า มีแผนจะเลิกจ้างงานกว่า 18,000 ตำแหน่ง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และการจ้างงานที่รวดเร็วในช่วงที่เกิดโรคระบาด ส่วนอัลฟาเบทกล่าวว่า จะเลิกจ้างงาน 12,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ไมโครซอฟท์กล่าวว่า พนักงานมากถึง 10,000 คนจะตกงาน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สปอติฟาย ยักษ์ใหญ่ด้านการสตรีมเพลงของสวีเดน กล่าวว่า จะลดพนักงานลง 6% จากทั้งหมดประมาณ 10,000 คน โดยอ้างถึงความจำเป็นในการปรับปรุงประสิทธิภาพ

ในอีกสัญญาณหนึ่งของการชะลอตัวของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี “แอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส” หรือ เอเอ็มดี ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ของสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันอังคารว่า รายได้สุทธิลดลง 98% ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2565 บริษัทยังกล่าวด้วยว่า คาดว่ารายรับจะลดลงมากถึง 10% ในไตรมาสปัจจุบัน อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวนับว่าดีกว่าที่นักลงทุนหลายคนคาดไว้ และหุ้นของเอเอ็มดีก็พุ่งขึ้นหลังการประกาศ

ส่วนในเอเชียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา บริษัท เอสเค ไฮนิกซ์ ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ประกาศผลขาดทุนรายไตรมาสที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ บริษัทเกาหลีใต้แห่งนี้รายงานผลขาดทุน 1.7 ล้านล้านวอน (ราว 45,390 ล้านบาท) ซึ่งแย่กว่าที่คาดไว้ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี 2565 เนื่องจากยอดขายลดลง 38%

บริษัทระบุสาเหตุว่า เกิดจากราคาชิปคอมพิวเตอร์ที่ลดลง และบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่เป็นคู่แข่งที่ประกาศจับมือกัน ขณะที่บริษัทเตือนว่า คาดว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วทั้งอุตสาหกรรมจะเลวร้ายลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก่อนที่จะฟื้นตัวในปลายปีนี้

การประกาศครั้งนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากคู่แข่งอย่าง ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ รายงานผลกำไรรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปีเมื่อวันอังคาร.

อัพเดทข่าว เพิ่มเติม : ก.ล.ต. ไทย – ดูไบ ลงนาม MoU แลกเปลี่ยนข้อมูลด้าน “ฟินเทค”

ก.ล.ต. ไทย – ดูไบ ลงนาม MoU แลกเปลี่ยนข้อมูลด้าน “ฟินเทค”

ก.ล.ต. ไทย – ดูไบ ลงนาม MoU แลกเปลี่ยนข้อมูลด้าน “ฟินเทค” พัฒนานวัตกรรมการเงิน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ Dubai Financial Services Authority (DFSA) เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ภายใต้กรอบความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเทคโนโลยีสำหรับการส่งเสริมนวัตกรรมด้านการให้บริการทางการเงิน ซึ่งครอบคลุมถึงเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการกำกับดูแล (RegTech) เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565

เทคโนโลยี

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับความร่วมมือระหว่าง ก.ล.ต. และ DFSA ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการกำกับดูแลการให้บริการทางการเงิน ตลอดจนพัฒนาการของนวัตกรรมทางการเงินและเทคโนโลยีในตลาดทุนของทั้งสองประเทศ

Mr. Ian Johnston, Chief Executive, DFSA กล่าวว่า “ด้วยพัฒนาการในภาคบริการทางการเงินเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หน่วยงานกำกับดูแลจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันเพื่อให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น การร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ

DFSA เชื่อมั่นว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ระหว่าง DFSA และ ก.ล.ต. เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั่วโลกจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ”

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการริเริ่มสำคัญที่จะช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลทั้งสองประเทศสามารถก้าวทันพัฒนาของนวัตกรรมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและสามารถจัดการกับความท้าทายใหม่ ๆ ได้ นอกจากนี้ MoU ฉบับนี้ยังเน้นย้ำความมุ่งมั่นของ ก.ล.ต. ในการยกระดับความสัมพันธ์กับหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำซึ่งรวมถึง DFSA อีกด้วย ก.ล.ต. เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่าง DFSA และ ก.ล.ต. จะเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและการกำกับดูแลตลาดทุนของทั้งสองประเทศ”